OKMD กระตุกต่อมคิด สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ - Opportunity for All
กระตุกต่อมคิด เพื่อพัฒนาความคิด เพิ่มความรู้ สร้างสรรค์ภูมิปัญญา

เสวนา DIGIVERSE (จักรวาลแห่งอนาคต) : กำเนิดโลกใบใหม่บน Online Platform

2573
เสวนา DIGIVERSE (จักรวาลแห่งอนาคต) : กำเนิดโลกใบใหม่บน Online Platform

วิทยากร - คุณวรรณสิงห์ ประเสริฐกุล (สิงห์), คุณธีรศานต์ สหัสสพาศน์ (ไอซ์) และคุณอภิเชษฐ์ เอติรัตนะ (ม๊าเดี่ยว)


ในความคิดเห็นของคุณสิงห์ ในปัจจุบันสถานการณ์ต่างๆ และเหตุการณ์ข่าวสารที่มาจากสื่อโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์นั้นล่าช้ากว่าช่องทางสื่อสารอย่าง Social Media ที่มีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน หน้าที่การงาน และอื่นๆ เราจึงต้องปรับเปลี่ยนมุมมองและปรับตัวให้เข้ากับสื่อ Social Media ซึ่งหลายๆคนสามารถปรับตัวในเรื่องวิชาชีพได้เป็นอย่างดี โดยจะต้องหาช่องทางในการใช้ Social Media ที่จะช่วยต่อยอดในด้านต่างๆ เช่น ด้านความคิด ด้านมนุษยสัมพันธ์ และในอีกหลายๆ ด้านที่ได้รับอิทธิพลจาก Social Media


คุณไอซ์ให้มุมมองว่า Social Media เข้ามามีอิทธิพลกับชีวิตประจำวันของเรา โดยช่วยให้เราสามารถติดตามชีวิตประจำวันของผู้อื่นที่เกี่ยวข้องกับเราได้ ทำให้เราเห็นชีวิตในอีกหลายๆ มุม รวมถึงการใช้ชีวิตของบุคคลที่ประสบความสำเร็จ สิ่งนี้ทำให้ Social Media มีอิทธิพลให้เราต้องเอาเยี่ยงอย่างตามบุคคลเหล่านั้น รวมถึงในบางครั้ง Social Media ทำให้เราไม่เปิดเผยความรู้สึกหรือตัวตนที่แท้จริงหรือเรียกได้ว่าเกิดการโกหกตัวเองจากการโดนสังคมบีบบังคับในโลก Social Media เพราะในโลกนี้ทุกสิ่งถูกตัดสินด้วยยอด Like หรือยอด Share ดังนั้น คำแนะนำที่สำคัญในการใช้ Social Media คือการหยุดโกหกตัวเองและซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตน


คุณม๊าเดี่ยวมองว่า Social Media สามารถทำให้โลกทั้งใบสามารถเชื่อมต่อกันได้ในด้านการสื่อสาร ซึ่งการสื่อสารสะดวกและเชื่อมถึงกันได้ง่ายขึ้น รวมถึง Social Media เป็นสื่อหนึ่งที่สามารถใช้เป็นพื้นที่แสดงศักยภาพของตนเองให้โลกได้รับรู้และถ้าหากไม่มี Social Media ก็ไม่มีม๊าเดี่ยวในทุกวันนี้


ในส่วนของผลกระทบจาก Social Media ที่ไปกระทบสื่อเก่าอย่างหนังสือพิมพ์หรือโทรทัศน์ คุณสิงห์มีความเห็นว่า รูปแบบการทำงานของสื่อเก่านั้น มีจำนวนขั้นตอนที่มาก ในขณะที่สื่อออนไลน์มีจำนวนขั้นตอนที่น้อยและสามารถผลิตสื่อออกแพร่ภาพได้ทันที แค่ภาพประกอบกับข้อความๆ หนึ่งก็สามารถเป็นสื่อได้ ในปัจจุบันหลายๆ คนจึงเริ่มหันมาใช้สื่อออนไลน์มากขึ้นทั้งในเชิงธุรกิจและปัจเจกบุคคล ทำให้การผลิตสื่ออย่างโทรทัศน์จำเป็นต้องปรับตัวด้วยการลดต้นทุนการผลิต เช่น การลดจำนวนทีมงานการถ่ายทำ และเพื่อการอยู่รอดของแรงงานจึงจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา จากเดิมที่ทำได้เพียงอัดภาพและเสียง ต้องเรียนรู้การใช้แสง แต่งหน้า และอื่นๆ อีกมากมายในการถ่ายทำเทปบันทึกภาพ เพื่อพัฒนาศักยภาพให้ตนเองเป็นแรงงานที่ครบวงจรมากขึ้น ช่วยให้ปัจเจกบุคคลในปัจจุบันสามารถผลิตสื่อ แข่งขันกับระดับธุรกิจได้


ในด้านการทำการตลาดบน Online platform คุณไอซ์สามารถใช้ Social Media ในการทำการตลาดให้กับธุรกิจของตนเองจนประสบความสำเร็จ โดยมองถึงความสำคัญของ Online Marketing นี้ว่า หากเรามองการทำธุรกิจอยู่เพียงแค่พื้นที่ๆ หนึ่ง ก็จะได้รายได้อยู่เพียงเท่านั้น เราควรจะประยุกต์ใช้เครื่องมือที่สามารถติดต่อสื่อสารเพื่อให้ธุรกิจของเราเป็นที่รู้จักในวงกว้าง และในส่วนของ Social Media ก็เป็นเครื่องมือที่มีศักยภาพเพียงพอที่จะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ แต่เราต้องศึกษาวัตถุประสงค์ของ Social Media แต่ละตัวเพื่อการประยุกต์ใช้กับธุรกิจอย่างเหมาะสม และสิ่งสำคัญคือ การสร้างบทความบนโลกออนไลน์ที่สามารถดึงดูดผู้คนให้มาพูดถึงเรามากขึ้นในทิศทางที่ดี ไปจนถึงการสร้างฐานข้อมูลลูกค้าจากโลกออนไลน์ ตลอดจนการใช้ Social Media ในการปิดการขายเพื่อสร้างกำไรได้จริง ในส่วนของการจัดการกับทัศนคติในเชิงลบบนโลกออนไลน์นั้นก็เป็นสิ่งสำคัญ ควรทำอย่างไรก็ได้ที่ไม่ใช่การต่อปากต่อคำกับลูกค้า และหาทางจัดการกับทัศนคติเหล่านี้ต่อไป


คุณม๊าเดี่ยวนั้นมองว่าทัศนคติเชิงลบสามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท ประเภทแรกคือทัศนคติเชิงลบที่มีเหตุมีผล เรียกได้ว่าเป็นคำแนะนำ คำติชม ซึ่งเราควรน้อมรับและนำมาพิจารณาต่อไป แต่ในประเภทที่สองคือทัศนคติเชิงลบที่ไร้เหตุและผล เราควรรับมือโดยการเมินเฉยหรือมองข้ามไป และในส่วนของการใช้ Social Media เราควรสร้างบทความที่เหมาะกับสถานการณ์ปัจจุบัน ตามค่านิยมของปัจจุบันและมีประโยชน์กับสังคม


การที่มีผู้ติดตามจำนวนมากในโลกออนไลน์ คุณสิงห์มองว่า “Social Media ไม่ใช่ธุรกิจ แต่เป็นเครื่องมือที่สามารถนำ Passion ของตนเอง มาเลี้ยงชีวิตได้” เป็นพื้นที่ที่เปิดกว้างให้เราสามารถทำอะไรได้อิสระและง่ายขึ้นในการใช้ชีวิต อย่างไรก็ตาม การลงบทความใดๆ สามารถโดนผู้คนวิจารณ์ได้อยู่เสมอ โดยเฉพาะความคิดเห็นที่ต่างมุมมองจากผู้ติดตาม ดังนั้นการรับมือกับคำวิจารณ์เหล่านี้ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่พึงกระทำ ฉะนั้นการจะลงบทความใดๆ จึงต้องตรวจสอบให้ละเอียดถี่ถ้วน ใช้ถ้อยคำที่ไม่กำกวมและใช้อย่างระมัดระวัง


สำหรับมุมมองในเรื่องของการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ใหม่ๆ ในอนาคต นักเดินทางอย่างคุณสิงห์มองว่า การได้ไปพบเห็นหรือการปฏิบัติจริงเป็นสิ่งสำคัญมาก แต่เราไม่สามารถเดินทางเพื่อไปพบเห็นสิ่งต่างๆ หรือทดลองทำสิ่งต่างๆ ได้หมดทุกอย่างบนโลก ดังนั้นการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้จึงเป็นสิ่งที่ดี ที่เป็นแหล่งรวมข้อมูลจากทุกมุมโลก แต่สิ่งสำคัญคือ การดึงดูดผู้คนให้มาใช้บริการ โดยมอบความบันเทิงไปพร้อมกับความรู้ ซึ่งจะเห็นได้ว่าปัจจุบันมีพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจต่างๆ มากมายในต่างประเทศ โดยในระดับครอบครัวมีการก็สนับสนุนให้ลูกหลานออกไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์เหล่านี้ในวันหยุด เพราะพิพิธภัณฑ์ถือเป็นแหล่งข้อมูลชั้นดีจากนักเดินทางหรือผู้เชี่ยวชาญที่นำข้อมูลที่ได้พบเห็นมาเก็บไว้ จึงเสมือนเป็นที่ที่เก็บรวบรวมข้อมูลจากทั่วทุกมุมโลกไว้ที่เดียว


ศูนย์การเรียนรู้ใหม่ๆ ในมุมมองของคุณไอซ์ คือ แหล่งการเรียนรู้ที่เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง เพื่อส่งเสริมให้การเรียนรู้สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ภาครัฐควรส่งเสริมในจุดนี้มากขึ้น โดยให้องค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์และสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ อีกเรื่องหนึ่งคือเยาวชนในประเทศไทยถูกดึงดูดโดยร้านอินเทอร์เน็ตและสถานบันเทิงต่างๆ มากขึ้นทุกวัน ไม่ว่าจะด้วยเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกที่แตกต่างกันระหว่างสถานบันเทิงกับศูนย์การเรียนรู้ เวลาเปิด - ปิดในการให้บริการของศูนย์การเรียนรู้ และสิ่งที่จะดึงดูดเยาวชนให้ศูนย์การเรียนรู้ดูน่าสนใจกว่าห้องสมุดธรรมดาหรือพิพิธภัณฑ์ทั่วไป เป็นเรื่องที่ภาครัฐจะต้องเร่งเข้ามาให้ความสำคัญเพื่อปลูกฝังให้เยาวชนเกิดนิสัยรักการเรียนรู้มากขึ้น


ดาวน์โหลดเอกสาร (pdf ขนาด 98.01 KB)