OKMD กระตุกต่อมคิด สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ - Opportunity for All
กระตุกต่อมคิด เพื่อพัฒนาความคิด เพิ่มความรู้ สร้างสรรค์ภูมิปัญญา

เที่ยวไป เรียนรู้ไป ....เทรนด์ใหม่ของนักท่องเที่ยวยุค 4.0 กับ 3
แหล่งท่องเที่ยวสุดโรแมนติกในต่างประเทศ

806 | 9 มกราคม 2565
เที่ยวไป เรียนรู้ไป ....เทรนด์ใหม่ของนักท่องเที่ยวยุค 4.0 กับ 3 แหล่งท่องเที่ยวสุดโรแมนติกในต่างประเทศ
เมื่อเข้าสู่ช่วงเดือนแห่งความรัก มองไปทางไหนก็จะเต็มไปด้วยบรรยากาศหวานๆ ในบทความนี้ OKMD จะนำเรื่องราวความรัก บทประพันธ์ และการท่องเที่ยวมารวมกัน โดยนำเสนอผ่าน 3 แหล่งท่องเที่ยวสุดโรแมนติกในรูปแบบ Knowledge-based Tourism ซึ่งเป็นเทรนด์การท่องเที่ยวที่เปลี่ยนจากการเดินทางเพื่อการพักผ่อน เป็นการผสมผสานหาความรู้ แรงบันดาลใจ และประสบการณ์แปลกใหม่ในพื้นที่ที่สัมผัสได้จริง อาจเรียกได้ว่า เป็นการเรียนรู้นอกห้องเรียน ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางเพื่อเรียนรู้วิถีชีวิตและวัฒนธรรม ท้องถิ่น การเที่ยวชมธรรมชาติ การท่องเที่ยวผจญภัย การเที่ยวชมสถาปัตยกรรม การเดินทางเข้าร่วมกิจกรรมทางดนตรี และอื่นๆ อีกมากมาย …..มาเที่ยวไปเรียนรู้ไป กับ 3 สถานที่โรแมนติกแบบ Knowledge-based Tourism ไปพร้อมๆ กัน 


Photo by Alexander Kagan on Unsplash

เริ่มที่ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมืองที่ยืนหนึ่งเรื่องความโรแมนติกระดับโลกมาอย่างยาวนาน ถึงขนาดได้รับการขนานนามว่า เป็นเมืองแห่งความรัก หรือ City of Love หรือ สวรรค์แห่งความโรแมนติก Heaven of Romantic เลยทีเดียว ที่นี่เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทาง ที่คู่รักทั่วโลกต่างวางแผน จูงมือกันไปสวีทตลอดทั้งปี เเละยังมีกิจกรรมหวานๆ มากมาย เช่น การเดินชมความงามของสถาปัตยกรรมและพิพิธภัณฑ์ภายในเมืองปารีสที่มีอยู่มากมาย อย่างเช่น พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ การล่องเรือชมพระอาทิตย์ตกที่แม่น้ำแซน ซึ่งไหลผ่านสถานที่สำคัญและย่านสวยงามของกรุงปารีส ทั้งหอไอเฟิล แกรนด์พาเลส  โบสถ์แซงต์ชาแปลล์ มหาวิหารนอเทรอดาม เป็นต้น


Photo by Reno Laithienne on Unsplash

เมื่อพูดถึง มหาวิหารนอเทรอดาม สถาปัตยกรรมโกธิคที่งดงามข้ามกาลเวลามากว่า 850 ปี  ปฏิเสธไม่ได้ว่า ความโด่งดังของคนค่อมแห่งนอเทรอดาม (The Hunchback of Notre Dame) วรรณกรรมที่สะท้อนให้เห็นถึงความงดงาม และอัปลักษณ์ในจิตใจมนุษย์ได้อย่างถึงแก่น ด้วยเนื้อหาที่หนักแน่น ทรงพลัง จึงเป็นที่ยอมรับว่าเป็นวรรณกรรมคลาสสิกระดับโลกจนถึงทุกวันนี้แม้กระทั่ง วอลต์ดิสนีย์ สตูดิโอผลิตภาพยนตร์ชื่อดัง ก็ได้นำ คนค่อมแห่งนอเทรอดาม มาสร้างเป็นภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชันด้วยเช่นกัน 


Photo by Henrique Ferreira on Unsplash

แหล่งท่องเที่ยวถัดไป คือ กรุงเวนิส ประเทศอิตาลี ประเทศนี้ ไม่ว่าจะมองไปมุมไหนๆ ก็เต็มไปด้วยกลิ่นไอของความโรแมนติกแทบจะทุกเมือง จึงไม่แปลกใจว่าทำไม 3 อันดับสุดยอดเมืองโรแมนติกของเราจึงมีเมืองเวนิสอยู่ด้วย ที่นี่คือเมืองที่ใครๆ ก็จะต้องนึกถึงการเดินทางด้วยเรือกอนโดลาไปตามคลองที่สองข้างทางขนานไปด้วยอาคารที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองเวนิส อีกทั้งยังได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศ และความงดงามอันสุดแสนประทับใจของจัตุรัสซานมาร์โค และสะพานถอนหายใจ โดยการบอกรักบนเรือถือว่าโรแมนติกสุดๆ และเชื่อกันว่า ถ้าคู่รักได้จูบกันบนเรือกอนโดลา และบอกรักตอนระฆังปาไนล์ดังยามเย็น ตอนลอดใต้สะพานถอนหายใจจะทำให้ความรักยืนนาน


Photo by Damiano Baschiera on Unsplash

ถ้าพูดถึงเรื่องราวความรักโรเมนติกที่เชื่อกันว่ามีต้นกำเนิดอยู่ที่กรุงเวนิส  ก็ต้องเป็นเรื่องราวความรักของโรมิโอกับจูเลียต และพ่อค้าแห่งเวนิส (The Merchant of Venice) บทประพันธ์ของ วิลเลียม เชคสเปียร์  ที่เป็นสำนวนพระราชนิพนธ์แปลในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งมีบทกลอนที่มีชื่อเสียงของเรื่องนี้ คือ
 
The quality of mercy is not strain'd, 
It droppeth as the gentle rain from heaven 
ทรงแปลได้อย่างไพเราะ ว่า 
อันว่าความกรุณาปรานี จะมีใครบังคับก็หาไม่ 
หลั่งมาเองเหมือนฝนอันชื่นใจ จากฟากฟ้าสุราลัยสู่แดนดิน 

และอีกบทหนึ่งที่มีชื่อเสียงมาก คือ
Tell me where is fancy bred, 
Or in the heart, or in the head?
How begot, how nourished?
Reply, reply.
It is engender'd in the eyes,
With gazing fed; and fancy dies
In the cradle where it lies.
Let us all ring fancy's knell
I'll begin it,--Ding, dong, bell

พระราชนิพนธ์แปลความว่า

.....เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ เวนิส เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวแบบที่โรแมนติกที่สุดในโลก


Photo by James Ting on Unsplash

ที่สุดท้ายคือ เมืองซานโตรินี ประเทศกรีซ สิ่งที่พลาดไม่ได้เลยเมื่อมาเยือนเมืองซานโตรินี นั่นก็คือ การเยี่ยมชมสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นในสไตล์ไซดลาดิก แบบกรีกโบราณ และ การชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ทัศนียภาพที่งดงาม และบรรยากาศยามเย็น แสงสีส้มเข้มของพระอาทิตย์ที่ใกล้จะหายลับไปกับขอบทะเลสีฟ้าเข้ม มีฉากหน้าเป็นอาคารบ้านเรือนสีขาวฟ้า ที่เรียงรายอยู่บนเขาริมทะเล ที่นี่มีบริการให้เช่าเรือ เพื่อล่องชมพระอาทิตย์ตกกลางน่านน้ำที่เต็มอิ่มไปด้วยบรรยากาศโรแมนติก

บ่อยครั้งที่ความรักปรากฏผ่านวรรณกรรมกรีกเพื่อขับเคลื่อนการบรรยาย ความรักประเภทต่างๆ เกิดขึ้นในตำราที่มีนัยยะต่างกัน ในบางกรณีความรักคืออวัยวะภายในและหุนหันพลันแล่น สำหรับคนอื่นๆ นั้นผ่อนคลายและทนทานกว่า อย่างเช่น ตำนานของ เทพอะโฟรไดต์ ซึ่งเป็นเทพเจ้าความรัก และความงามของกรีก เทพีแห่งความรักและงาม ที่ถือกำเนิดมาจากฟองคลื่นในท้องทะเล เป็นตัวแทนของอารมณ์รัก ความปรารถนา ความงดงาม และยังมีเทพอีรอส หรือ คิวปิด ซึ่งเป็นนามเรียกเทพแห่งความรัก หรือ กามเทพของชาวกรีกที่เกิดจากเทพีอะโฟรไดต์ ที่หลายคนจะติดภาพคิวปิดเป็นเด็กน้อยตัวเล็ก ผิวขาว มีปีกน้อยๆ พร้อมกับธนูและศรข้างกาย มีการถ่ายทอดเรื่องราวได้อย่างสนุก ตื่นเต้น โรแมนติก และยังเป็นสะท้อนถึงชีวิตของมนุษย์ การใช้ชีวิตคู่ที่จะมีความสุขได้ต้องอาศัย ความไว้วางใจ เชื่อใจ และ ซื่อสัตย์ต่อกัน มีบ้างที่อุปสรรค ขวากหนามจะมาขัดขวางเส้นทางรัก แต่ทุกครั้งที่ฝ่าฟันไปได้ ก็จะเป็นข้อพิสูจน์ความรักว่ามีค่ามากแค่ไหน…

โควิดไปเมื่อไหร่ ก็เตรียมเก็บกระเป๋าออกเดินทางไปท่องเที่ยวแบบ Knowledge-based Tourism กัน! เริ่มจากประเทศไหนดี!! 

ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น

"โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น"
1. ห้ามเสนอข้อความหรือเนื้อหาอันเป็นการวิพากษ์วิจารณ์หรือพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์และราชวงศ์ เป็นอันขาด
2. ห้ามเสนอข้อความหรือเนื้อหาที่ส่อไปในทางหยาบคาย ก้าวร้าว ... (อ่านทั้งหมด)