OKMD กระตุกต่อมคิด สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ - Opportunity for All
กระตุกต่อมคิด เพื่อพัฒนาความคิด เพิ่มความรู้ สร้างสรรค์ภูมิปัญญา

ย้อนเวลา...การละเล่นไทย

14633 | 7 ธันวาคม 2564
ย้อนเวลา...การละเล่นไทย
ด้วยกระแสของซีรีส์เรื่อง Squid Game ซีรีส์ที่พูดถึงการท้าดวลกันโดยใช้เกมการเล่นของเด็กเกาหลีซึ่งเป็นเกมที่เล่นง่ายๆ ไม่ซับซ้อน สะท้อนให้เห็นถึงเรื่องราว วิถีชีวิตของคนเกาหลีในยุคนั้น ทำให้ชวนนึกถึงชีวิตในวัยเด็ก  ยุคเด็กไทยแบบเราๆ “การละเล่นไทย” ถือว่าเป็นการเล่นแบบดั้งเดิมของไทย ที่มีการเล่นสืบทอดกันมาในแต่ละท้องถิ่น หรือภูมิภาค มีการเล่นที่น่าสนใจอยู่มากมาย ล้วนมีวิธีการเล่นที่เรียบง่าย สอดคล้องกับสภาพแวดล้อม และวิถีชีวิตของคนในท้องถิ่นนั้นๆ การเล่นจึงมีหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นคนเดียว เล่นกับเพื่อน เล่นอิสระ หรือมีกฎกติกา แต่ยังไงก็ตาม การละเล่นไทยล้วนมีคุณค่าต่อการส่งเสริมพัฒนาการของเด็ก และยังมีคุณลักษณะเด่น คือสามารถนำไปใช้ได้กับคนทุกช่วงวัย เริ่มตั้งแต่เด็กปฐมวัย วัยเรียน วัยรุ่น ผู้ใหญ่ แม้กระทั่งคนวัยชรา
 
เราจะมาย้อนเวลาไปกับ “5 การละเล่นไทย” ในอดีต ที่เด็กยุคดิจิทัล อาจจะไม่เคยรู้จัก หรือได้ทดลองเล่นมาก่อน ลองดูสิว่ามีการละเล่นอะไรที่เราเคยเล่นมาแล้วบ้าง และการละเล่นเหล่านั้นนอกจากความสนุกสนานแล้วยังช่วยส่งเสริมพัฒนาการของเด็กได้อย่างไร

  1. กระต่ายขาเดียว เป็นการเล่นไล่จับชนิดหนึ่ง โดยคนที่เป็นกระต่าย ต้องยืนด้วยขาข้างเดียว แล้วกระโดด เขย่ง เคลื่อนที่ไล่จับ (แตะถูกตัว) เด็กคนอื่น ภายในพื้นที่ที่กำหนด ถ้าใครโดนจับได้ก็ต้องออกจากการเล่นเพื่อรอเล่นรอบต่อไป
    -----
    (เด็กได้พัฒนาร่างกาย กล้ามเนื้อมัดใหญ่ สร้างสมดุลร่างกายและมีความคล่องแคล่วในการเคลื่อนไหว รู้จักคิดวางแผน ตัดสินใจ ส่งเสริมความฉลาดในการแก้ปัญหา Adversity Quotient : AQ) 

  2. กาฟักไข่ หรือชิงไข่เต่า ผู้เล่นที่เป็นอีกาหรือเต่า จะเข้าไปอยู่ในวงกลมที่ขีดไว้ คนอื่นๆอยู่นอกวงกลม ต้องพยายามที่จะแย่งเอาก้อนหินที่สมมุติว่าเป็นไข่มาให้ได้ ซึ่งอีกาหรือเต่าจะต้องคอยป้องกันไม่ให้คนอื่นเอาไข่ไปได้
    -----
    (เด็กได้พัฒนาร่างกาย กล้ามเนื้อมัดใหญ่-เล็ก ประสานสัมพันธ์ระหว่างมือและตา มีความคล่องแคล่ว รู้จักการวางแผน ความคิดเชิงกลยุทธ์ การคาดการณ์ ส่งเสริมความฉลาดด้านความคิดสร้างสรรค์ Creativity Quotient : CQ)
     
  3. โพงพาง คือ ชื่อของกับดักปลาชนิดหนึ่ง ผู้ที่เล่นเป็น “ปลา” จะถูกผูกตาแล้วหมุน 3 รอบ ผู้เล่นอีกคนอื่นล้อมวงร้องว่า “โพงพางเอ๋ย สำเภาเข้าลอด ปูปลาตาบอด เข้าลอดโพงพาง” จบแล้วถามว่า “ปลาเป็นหรือปลาตาย?” ถ้าปลาตอบว่า “ปลาตาย” แปลว่าห้ามขยับ แต่ถ้าตอบว่า “ปลาเป็น” ก็ขยับได้ หากผู้เล่นเป็นปลา แตะถูกตัวคนใดคนหนึ่งแล้วทายชื่อถูก ผู้นั้นจะต้องกลายเป็นปลาแทน ถ้าไม่ถูกก็ให้ทายใหม่
    -----
    (เด็กได้พัฒนาร่างกาย การเคลื่อนไหว พัฒนาทักษะทางภาษาในการสื่อสาร เรียนรู้การควบคุมตนเองจากสถานการณ์ที่กำหนด)

  4. เดินกะลา ผู้เล่นจะต้องนำกะลามะพร้าว 2 อัน มาทำความสะอาดแล้วเจาะรูตรงกลาง ร้อยเชือกให้แน่น เพื่อป้องกันไม่ให้เชือกหลุดในเวลาเดิน การเดินให้ใช้นิ้วหัวแม่เท้ากับนิ้วชี้คีบเชือกเอาไว้แล้วเดิน อาจจะเป็นการเล่นเพื่อการแข่งขันก็ได้
    -----
    (เด็กได้พัฒนาร่างกาย กล้ามเนื้อมัดใหญ่ การทรงตัว ความสมดุลของร่างกายและมีความคล่องแคล่วในการเคลื่อนไหว รู้จักคิดวางแผน และตัดสินใจ)

  5. หมาไล่ห่าน เลือกผู้เล่นคนหนึ่งเป็นหมาวิ่งไล่ อีกคนหนึ่งเป็นห่านวิ่งหนี ผู้เล่นนอกนั้นจับมือล้อมกันเป็นวง เมื่อห่านจวนตัวก็จะวิ่งลอดเข้าไปในวงล้อม ผู้ที่เล่นเป็นประตูต้องพยายาม กันไม่ให้หมาเข้าไปในหรือนอกวงทันห่าน กติกามีอยู่ว่าช่วงใดที่ผู้เล่นเป็นประตูพากันนั่งลง ถือเป็นการปิดประตู หากห่านใดไล่ทันและโดนจับได้ก็ถือว่าแพ้
    -----
    (เด็กได้พัฒนาร่างกาย กล้ามเนื้อมัดใหญ่ มีความคล่องแคล่วในการเคลื่อนไหว รู้จักคิดวางแผน ตัดสินใจ และความสามัคคีในการเล่นร่วมกับเพื่อน)
“5 การละเล่นไทย” ในบทความนี้ เป็นเพียงตัวอย่างการละเล่น ที่พ่อแม่สามารถนำไปเล่นกับเด็กๆ และสมาชิกในครอบครัวได้อย่างง่ายๆ โดยที่พ่อแม่สามารถลงไปเล่นเป็นเพื่อนกับเด็กๆ สร้างให้เกิดสัมพันธภาพที่ดีในครอบครัว การละเล่นไทยจึงไม่ได้จำกัดอายุให้เล่นเฉพาะวัยใดวัยหนึ่งเท่านั้น ถึงแม้ยุคสมัยจะเปลี่ยนแปลงไป ความทันสมัยทางเทคโนโลยีมีมากขึ้น ส่งผลให้เด็กมีทางเลือกรูปแบบการเล่นที่หลากหลาย แต่การละเล่นไทยก็ยังเป็นความสุขที่หาได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องลงทุนอะไร การที่พ่อแม่ชวนให้เด็กได้เล่น วิ่ง กระโดด จะช่วยทำให้เด็กได้มีโอกาสในการออกกำลังกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรงและเจริญเติบโตตามวัย การได้ฝึกร้องเพลง ปรบมือตามจังหวะ จะช่วยทำให้เด็กได้พัฒนาระบบความคิด ความจำ ความสามารถทางภาษา ส่งผลไปถึงการจัดการด้านอารมณ์ เด็กเรียนรู้ที่จะอยู่ในกติกา การเล่น/ทำงานร่วมกัน รู้จักวางแผน แก้ปัญหาและการสร้างเป้าหมาย ถือว่าเป็นทักษะที่สำคัญที่พ่อแม่สามารถปลูกฝังได้จากการเล่น เพราะการเล่นของเด็กคือเครื่องมือที่จะทำให้เด็กรู้จักโลก ตนเอง และธรรมชาติรอบตัวอย่างอิสระ และในช่วงเวลานี้ เด็กๆ ใช้เวลาอยู่กับบ้านเป็นส่วนใหญ่ เป็นโอกาสดีที่จะชวนกันเล่นสนุกไปกับการละเล่นไทย ที่นับวันจะสูญหายไปตามกาลเวลา





ข้อมูลประกอบการเขียน
https://petmaya.com/17-thai-retro-playing
http://164.115.27.97/digital/files/original/ca603325d4a0d4e766ea224aaa247c30.pdf

ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น

"โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น"
1. ห้ามเสนอข้อความหรือเนื้อหาอันเป็นการวิพากษ์วิจารณ์หรือพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์และราชวงศ์ เป็นอันขาด
2. ห้ามเสนอข้อความหรือเนื้อหาที่ส่อไปในทางหยาบคาย ก้าวร้าว ... (อ่านทั้งหมด)