OKMD กระตุกต่อมคิด สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ - Opportunity for All
กระตุกต่อมคิด เพื่อพัฒนาความคิด เพิ่มความรู้ สร้างสรรค์ภูมิปัญญา

8 สิ่งที่คุณไม่รู้เกี่ยวกับจิตใจของคุณ และวิธีในการควบคุมพลังพิเศษนี้

23821 | 22 กรกฎาคม 2564
8 สิ่งที่คุณไม่รู้เกี่ยวกับจิตใจของคุณ และวิธีในการควบคุมพลังพิเศษนี้
หลายคนน่าจะเคยสงสัยกันว่า จิต หรือ จิตใจ คืออะไร แท้จริงแล้ว จิต หรือ Mind ก็คือความนึกคิด เชาว์ปัญญา ความมีสติ หรือความคิด ซึ่งจิตใจสามารถสั่งการให้เราคิด หรือทำอะไรที่สร้างสรรค์ได้มากมายจริงๆ เราไปทำความรู้จัก 8 ข้อที่คุณไม่รู้เกี่ยวกับจิตใจของคุณ และวิธีในการควบคุมพลังพิเศษนี้ด้วยกัน...

1. ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าจิตคืออะไรหรือสมองสร้างจิตใจขึ้นมาได้อย่างไร No one knows exactly what the mind is or how the brain creates it.  
น่าแปลกใจที่จิตใจของเรานั้น มีตัวตนอยู่จริง แต่เราไม่สามารถจับต้องจิตใจนี้ได้ แถมจิตใจนั้นยังสามารถสร้างเรื่องราวดีๆ ให้เกิดขึ้นได้มากมายอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าจิตใจจะถูกสร้างขึ้นโดยสมอง แต่จิตใจก็สามารถทำงานเป็นอิสระจากสมองได้ด้วย และยิ่งน่าประหลาดใจมากขึ้น เมื่อความจริงคือ จิตใจสามารถเปลี่ยนสมองได้ด้วย

คุณสามารถพัฒนาอะไรได้บ้าง : เมื่อคุณได้รับทราบข้อมูลนี้แล้ว คงทำได้เพียงรับทราบไปกับข้อมูลอันน่าทึ่งนี้ แต่หากคุณสามารถสั่งการให้จิตใจทำแต่เรื่องดีๆ คิดบวกๆ ได้ล่ะ ลองคิดดูว่า คุณอยากให้จิตสั่งการให้สมองเปลี่ยนอะไรในชีวิตให้ดีขึ้นกันบ้าง เริ่มตั้งแต่วันนี้… ไม่มีอะไรที่สายเกินไป!!



2. “ความคิด” คือวิธีที่คุณพูดกับตัวเอง “Thinking” is the way you talk to yourself.
หากให้อธิบายว่า ความคิด คืออะไร คำตอบคือ มันเป็นวิธีที่คุณใช้พูดกับตัวเองนั่นเอง เพราะฉะนั้นเป็นไปได้ว่า "ความคิด" (thinking) และ "การพูดกับตัวเอง" (self-talk) อาจจะเป็นเรื่องเดียวกันได้เหมือนกันนะ

คุณสามารถพัฒนาอะไรได้บ้าง : จงลองค้นหาสิ่งที่อยู่ลึกเข้าไปในใจของคุณกันหน่อย อะไรเป็นสิ่งที่คุณมักย้ำเตือนกับตัวเองเสมอๆ อย่าลืมว่า ความคิดเป็นเรื่องที่สำคัญต่อจิตใจมากเรื่องหนึ่ง ขอให้คุณลองนึกหรือคิดดูว่า ตอนนี้คุณอยากจะพูดอะไรกับตัวเองบ้าง ลองพูดแต่เรื่องดีๆ คิดแต่เรื่องดีๆ เชื่อหรือไม่ว่า สิ่งดีๆ ก็จะวนเข้ามาหาตัวคุณได้ในที่สุด



3. คุณสามารถดูจิตใจของคุณทำงานได้ You can watch your mind at work.  
มีหลายคนยังไม่ทราบว่า ตัวเราเองนั้น สามารถสร้างความเชี่ยวชาญในการเฝ้าดูจิตใจของตนเองได้ โดยรับรู้อย่างมีสติว่า คุณสามารถยืนอยู่นอกจิตใจของตัวเอง และเฝ้าดูสิ่งที่เกิดขึ้นได้ โดยไม่ต้องประสบกับมันด้วยตัวเอง “ส่วนการเฝ้าดู” (Self-watching) บางครั้งเรียกว่า การสังเกตตนเอง (the Observing Self) (หรือ “การสังเกตอัตตา”) (Observing Ego) ค่อนข้างเป็นส่วนที่แยกออกจากอารมณ์ ต่อเมื่อคุณได้ลองมองลึกเข้าใจในจิตใจของตัวเองได้แล้ว จะทำให้คุณสามารถมองเห็นความคิดและการกระทำของคุณได้อย่างเป็นกลางมากที่สุด 

ในทางกลับกัน ในส่วนที่คุณเคยมีประสบการณ์ (Experiencing) คุณเองก็สามารถรับรู้ได้ว่า มันมีสิ่งที่ประทับใจ (impressions) หรือไม่ หรือคุณรู้สึกว่ามีอารมณ์ต่อสิ่งที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์ในรูปแบบไหน

คุณสามารถพัฒนาอะไรได้บ้าง : จงลองมองลึกเข้าไปในจิตใจของตัวเองดูว่า สิ่งใดเป็นตัวฉุดรั้งความคิดของคุณไว้กันแน่ คุณมีความกังวลในเรื่องใดบ้าง คุณเป็นคนที่ชอบคิดวนเวียนเกี่ยวกับเรื่องเดิมๆ ซ้ำไปซ้ำมาหรือไม่ โดยปกติแล้ว คุณเป็นคนที่ชอบคิดบวก ชอบพูดกับตัวเองในทางที่ให้กำลังใจ ชอบคิดลบหรือชอบหาวิธีทำร้ายตัวเองหรือไม่ ลองหัดฟังคำพูดของตัวเอง แล้วคุณก็จะเห็นความคิดของคุณเอง เมื่อเห็นว่า คุณเริ่มจะคิดลบไปในทางไม่ดีกับตัวเองแล้ว ขอให้คุณค่อยๆ ลองปรับเปลี่ยนให้เป็นคนที่คิดบวกและให้กำลังใจตัวเองให้มากขึ้น แบบนี้คุณจะสามารถปรับเปลี่ยนนิสัย รวมทั้งความคิดให้พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นได้



4. จิตใจเป็นสิ่งที่ไร้ขอบเขต และจะวิ่งพล่านไปในที่ๆ อยากจะไป Your mind is a wild thing and will run where it will.
ทุกคนมักมี "จิตที่ไม่หยุดนิ่ง" และจิตของแต่ละคนนั้น มักจะเต็มไปด้วยจินตนาการ และเรื่องราวที่ไร้ขอบเขต มีทั้งความคิดที่คิดบวก และคิดลบ มีประโยชน์และไร้สาระในคราวเดียวกัน พูดได้ว่า จิตนั้นมีความคิดเป็นของตัวเอง โดยที่เราเองไม่สามารถควบคุมได้ แต่คุณสามารถเรียนรู้ที่จะจัดการมันได้

คุณสามารถพัฒนาอะไรได้บ้าง : เมื่อคุณเริ่มสังเกตเห็นว่า ตัวเองเริ่มจะมีความคิดและจินตนาการไปไกล และจิตใจเริ่มจะปั่นป่วนแทบจะควบคุมไม่อยู่แล้วล่ะก้อ ขอให้คุณตั้งสติ และขอให้พูดกับตัวเองว่า “นี่เป็นแค่ความคิดเท่านั้น” การคิดแบบนี้ จะช่วยให้ดึงสติและทำให้คุณมองการพูดคุยกับตัวเองนี้ได้อย่างเป็นกลางมากขึ้น โดยคุณสามารถใช้เทคนิคของการฝึกทำสมาธิ มาช่วยฝึกจิตให้จิตใจสงบลงได้ ซึ่งเทคนิคการทำสมาธินี้ จะช่วยให้คุณผ่อนคลายจากความคิดที่ฟุ้งซ่านและจินตนาการที่ออกไปทางลบ หรือเลวร้ายได้เป็นอย่างดี แถมช่วยให้จิตของคุณได้รับรู้ถึงความสงบของจิตใจอีกด้วย



5. ความคิดของคุณสามารถเปลี่ยนสมองของคุณได้ Your mind can change your brain.
ความคิดของคุณสามารถเปลี่ยนสมองของคุณได้ เมื่อคุณสร้างรูปแบบความคิดใหม่ๆ คิดแต่เรื่องดีๆ ก็เสมือนคุณได้สร้างเรื่องดีๆ ให้เกิดขึ้นด้วย ยิ่งคุณฝึกนิสัยความคิดใหม่ๆ มากเท่าไหร่ เซลล์สมองของคุณก็จะเรียนรู้ที่จะทำงานและเชื่อมโยงสิ่งใหม่ๆ เข้าด้วยกันมากขึ้นเท่านั้น โดยเซลล์ประสาทที่ทำงานร่วมกัน จะเชื่อมถึงกัน ซึ่ง “…จิตใจที่มีความคิดดีๆ สามารถเปลี่ยนแปลงการทำงานของสมองได้อย่างชัดเจนและเป็นระบบ”

คุณสามารถพัฒนาอะไรได้บ้าง : จงลองเปลี่ยนคำพูดและความคิดของตัวเอง เช่น ทุกครั้งที่คุณรู้สึกว่า เริ่มจะหมกมุ่นอยู่กับความโกรธ หรือหงุดหงิดตัวเองทุกครั้งที่ทำเรื่องผิดพลาด ขอให้คุณตั้งสติ และหัดบอกตัวเองใหม่ว่า “มันก็เป็นเพียงความผิดพลาดหนึ่งของชีวิตเองนี่ ฉันจะพยายามมีสติให้มากขึ้น เพื่อเรียนรู้จากความผิดพลาดนี้ และจะไม่ทำให้มันเกิดขึ้นอีก” หรือจดบันทึก ลงกระดาษไว้ ถึงความผิดพลาดและวิธีแก้ไขให้ดีขึ้น โดยคุณสามารถนำมาใช้กับสถานการณ์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ หากคุณต้องประสบกับเหตุการณ์นั้นอีกครั้ง คุณก็จะสามารถตั้งสติ และแก้ไขเพื่อไม่ให้ความผิดพลาดเกิดขึ้นอีกได้อย่างรวดเร็ว หรืออาจจะพูดทบทวนถึงความผิดพลาดและวิธีแก้ไข เพื่อสร้างความจดจำ



6. คำพูดที่ให้ความรู้สึกเรียบง่ายสามารถทำให้จิตใจคุณสงบและเปลี่ยนสมองได้ Simple feeling words can calm your mind and change your brain.
ทราบหรือไม่ว่า ความเศร้า ความกระวนกระวายใจ หรือความโกรธนั้น ไม่ว่าคุณจะรู้สึกถึงอารมณ์ใดก็ตาม ก็มักจะทำให้คุณรู้สึกทุกข์ใจได้เสมอ งานวิจัยได้บอกไว้ว่า การหยั่งรู้ถึงความรู้สึกของตัวเองได้นั้น จะสามารถช่วยบรรเทาความรู้สึกอารมณ์เสียและช่วยให้คุณรู้สึกควบคุมจิตได้มากขึ้น



คุณสามารถพัฒนาอะไรได้บ้าง : จงลองสังเกตว่า เมื่อใดที่คุณเริ่มจะมีอารมณ์ต่างๆ เกิดขึ้นและเริ่มรบกวนจิตใจแล้วล่ะก้อ ขอให้คุณลองค้นหาคำที่อธิบายถึงอารมณ์นั้นให้ได้ เช่น ฉันรู้สึกโกรธ รู้สึกสะเทือนใจ รูู้สึกเศร้า รู้สึกหงุดหงิด หรือ รู้สึกไม่โอเคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้อยู่นะ แบบนี้จะช่วยให้คุณ หยั่งรู้ ถึงความรู้สึกจริงๆ ของตัวเองได้ และรับรู้ว่า คุณกำลังรู้สึกอย่างไร เพื่อคุณจะได้ตั้งสติและเริ่มควบคุมอารมณ์และความรู้สึกนั้นให้บรรเทาลง



7. สมองของคุณมีอคติเชิงลบ แต่จิตใจของคุณสามารถสอนให้มีความสุขมากขึ้น Your brain has a negativity bias, but your mind can teach it to be happier.
ต่อเมื่อคุณเริ่มจะรู้สึกว่ามี “อคติเชิงลบ” นั่นหมายถึงว่า สมองของคุณสั่งการให้เริ่มตอบสนองต่อความรุนแรงกับสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้น เช่น ภัยอันตราย การคุกคาม ความผิดพลาด หรือปัญหา สิ่งเหล่านี้ จะทำให้คุณพบเจอกับความสุขได้ยากขึ้น พูดได้ว่า อคติเชิงลบนี้จะขัดขวางความสุขของคุณได้ง่ายมาก 

แต่โชคดีที่จิตของคนเรานั้น สามารถฝึกสมองให้มีความสุขมากขึ้นได้ โดยการคิดบวกให้มากขึ้น ความคิดบวกๆ นี้จะช่วยพัฒนาจิตใจทำให้คุณพบกับความสงบ ความสำเร็จ และความสุขได้ในที่สุด และนี่ก็เป็นอีกวิธีของจิตที่คิดด้านบวกช่วยเปลี่ยนสมองให้ดีขึ้นได้

 

คุณสามารถพัฒนาอะไรได้บ้าง : ลองคิดถึงแต่เหตุการณ์ หรือประสบการณ์ที่คุณรู้สึกว่ามีความสุข โดยการดึงความรู้สึกที่ว่า คุณมีความสุขในเหตุการณ์วันนั้นกลับมารู้สึกมีความสุขอีกครั้ง โดยขอให้คงความรู้สึกอยู่กับประสบการณ์และความสุขนั้นเป็นเวลา 5 วินาทีขึ้นไป วิธีการนี้จะช่วยฝึกให้ปรับจิตและปรับสมองของคุณให้กลับมามีพลัง มีชีวิตชีวา และรู้สึกมีความสุขอีกครั้ง ทำให้คุณมีแนวโน้มที่จะคิดแต่เรื่องดีๆ ทำแต่เรื่องดีๆ ในทุกๆ วัน และคุณก็จะเห็นเองว่า รอบตัวคุณในอนาคตจะมีแต่เรื่องดีๆ เข้ามา



8. การเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ จะเปลี่ยนสมองของคุณแม้ว่าคุณจะอายุมากขึ้นก็ตาม Learning new things changes your brain—even if you're older.
คุณสามารถเสริมสร้างจิตใจของคุณด้วยการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้เสมอไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ เพราะสมองสามารถเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับอายุ  "ทุกครั้งที่คุณฝึกฝนทักษะเดิมซ้ำๆ คุณจะได้เรียนรู้ถึงทักษะใหม่ๆ ด้วย และทักษะนั้นจะแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ โดยทักษะต่างๆ เป็นเรื่องที่สามารถสร้างขึ้นได้

คุณสามารถพัฒนาอะไรได้บ้าง : จงหัดเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับทักษะต่างๆ ของคุณ ทั้งทักษะเก่าและทักษะที่คุณกำลังจะสร้างขึ้นใหม่ และจงเลือกใช้ความคิดของคุณในทางที่คิดบวก เพื่อสร้างความสุขและพัฒนาตนเองไปในทางที่ดีให้กับชีวิต 






ข้อมูลจาก Psychology Today

ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น

"โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น"
1. ห้ามเสนอข้อความหรือเนื้อหาอันเป็นการวิพากษ์วิจารณ์หรือพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์และราชวงศ์ เป็นอันขาด
2. ห้ามเสนอข้อความหรือเนื้อหาที่ส่อไปในทางหยาบคาย ก้าวร้าว ... (อ่านทั้งหมด)