อารมณ์กับศักยภาพในการเรียนรู้
อารมณ์มีผลกระทบต่อการเรียนรู้อย่างไร
งานวิจัยค้นพบว่าทัศนคติและอารมณ์ของคนมีผลกระทบต่อการเรียนรู้ ทั้งความเครียด ความกลัว ความวิตกกังวล ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับเด็กหรือผู้ใหญ่วัยใดก็ตาม จะสกัดกั้นวงจรการทำงานของสมอง
อาจพูดได้ว่าทั้งสุขภาพกายและใจของคนเรามีผลต่อประสิทธิภาพการคิดและการเรียนรู้ บ้านหรือโรงเรียนที่มีบรรยากาศตึงเครียดล้วนส่งผลกระทบต่อการเรียนรู้ของเด็กทั้งสิ้น ดังนั้นการเลี้ยงดูของพ่อแม่และบรรยากาศในบ้านที่เด็กเติบโตต้องเป็นไปในลักษณะที่ทำให้เด็กเกิดความรู้สึกอบอุ่น มั่นคง มีความสุข ส่วนโรงเรียนก็ต้องจัดบรรยากาศที่ทำให้เด็กเกิดความรู้สึกปลอดภัย และสนุกสนานมากกว่ามีแต่ความกดดัน ความเครียด
หากมีแรงกดดันมาก มีความเครียดสูง ถูกดุด่าประจำ มีความซึมเศร้าเหงาหงอยล้วนมีผลต่อสารเคมีที่จะทำให้เราเรียนรู้ได้ไม่ดี ความสามารถเรียนรู้ในสมองลดลง แต่หากเรามีความสุขมีความปลอดภัยมั่นคง อารมณ์เราดีจะทำให้สารเคมีที่ดีหลั่งมากขึ้น ส่งผลให้เราเกิดการเรียนรู้ได้เร็ว และจดจำได้ดี การเปิดโอกาสให้เด็กได้บอกเล่าความรู้สึกของตัวเองจะช่วยให้เด็กได้เรียนรู้ทักษะในการฟังผู้อื่นและยอมรับคำวิจารณ์ของคนอื่นได้ไม่เกิดความรู้สึดกดดันเมื่อถูกวิจารณ์ การจัดหาวิธีให้เด็กได้ระบายความรู้สึกนึกคิดอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้เด็กสามารถรับมือกับความโกรธความกลัว ความวิตกกังวล ความเจ็บปวดในใจ และความเครียดในชีวิตประจำวันได้ดี
เราไม่ต้องเพียงแต่คำนึงถึงพัฒนาการต่างๆของสมองที่กล่าวมา เรายังต้องคำนึงถึงพัฒนาการทางด้านอารมณ์ควบคู่กันไปด้วย นักเรียนที่เข้ามาในห้องเรียนด้วยอารมณ์เครียดย่อมมีความสามารถในการเรียนรู้ ที่แตกต่างจากนักเรียนที่เข้ามาด้วยอารมณ์ดี หรืออารมณ์ปกติ
การที่เราเข้าใจพื้นฐานของสมองจะช่วยให้เราคิดถึงประเด็นที่สำคัญๆ พ่อแม่ทุกคนจำเป็นที่จะต้องรู้ถึงความจริงเกี่ยวกับพัฒนาการและหน้าที่ของสมอง ซึ่งจะทำให้เราเข้าใจถึงการเรียนรู้และความจำได้ดียิ่งขึ้น และรู้วิธีสอน มีความสุขกับการเรียนการสอน
ที่มา : พันโทแพทย์หญิงกมลพรรณ ชีวพันธ์ศรี, ชุดความรู้การเลี้ยงดูเด็ก วัย 3-6, 7-9, 10-12 ตามหลักการพัฒนาสมองสำหรับพ่อแม่และผู้ปกครอง, สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้(องค์การมหาชน), กรุงเทพฯ, 2554.